นางเมธินี เทพมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านไอซีทีเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการวางกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านไอซีที
โดยการจัดทำแผนแม่บทไอซีทีของอาเซียน (ASEAN ICT MASTERPLAN 2015) หรือ AIM 2015
ที่ได้รับการรับรองจากที่ประชุม ASEAN TELMIN ครั้งที่ 10
เพื่อใช้เป็นตัวกำหนดแผนการดำเนินงานและแนวทางความร่วมมือด้านไอซีทีของอาเซียนในระยะ
5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 – 2558
แผนแม่บทฯ
ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ไอซีที) ให้มีความแข็งแกร่งและสนับสนุนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
โดยได้กำหนดเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ คือ 1)
ไอซีทีเป็นเครื่องมือในการผลักดันให้อาเซียนมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 2)
อาเซียนได้รับการยอมรับในฐานะเป็นศูนย์กลางด้านไอซีทีแห่งหนึ่งของโลก 3)
ประชากรอาเซียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ 4)
ไอซีทีมีส่วนช่วยส่งเสริมการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน
รวมทั้งได้มีการวางยุทธศาสตร์ในการดำเนินการไว้ 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่
1 การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ (Economic transformation) ยุทธศาสตร์ที่ 2
การมีส่วนร่วมของประชาชน และการสร้างศักยภาพให้แก่ประชาชน (People empowerment and
engagement) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การสร้างนวัตกรรม (Innovation) ยุทธศาสตร์ที่ 4
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure development) ยุทธศาสตร์ที่ 5
การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human capital development) และยุทธศาสตร์ที่ 6
การลดช่องว่างทางด้านดิจิทัล (Bridging the digital divide)
“กระทรวงไอซีที ในฐานะหน่วยงานหลักด้านไอซีทีของประเทศไทย
ได้เล็งเห็นความสำคัญของแผนแม่บทไอซีทีของอาเซียน
จึงเข้าไปร่วมผลักดันการดำเนินงานในส่วนของยุทธศาสตร์ที่ 2
ด้วยการริเริ่มเสนอแนวความคิดจัดทำแผนทิศทางการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน
(ASEAN e-Services Roadmap) ซึ่งที่ประชุม ASEAN TELMIN ครั้งที่ 10
ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการจัดทำแผน
โดยจะมุ่งเน้นไปที่การผลักดันให้เกิดการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Services)
ในประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศ
ให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันเพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์การ และภาคธุรกิจต่างๆ
ซึ่งสอดรับกับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียนในปี 2558” นางเมธินี
กล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินการนั้นจะเริ่มตั้งแต่การศึกษาและสำรวจสถานะการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
รวมทั้งแผนการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละประเทศ
สำรวจความต้องการบริการอิเล็กทรอนิกส์ในมุมมองของประชาชน และภาคธุรกิจ
ตลอดจนศึกษาถึงประโยชน์ ความคุ้มค่า
และปัจจัยเกื้อหนุนต่อการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะพัฒนาเป็นบริการร่วม
(Shared services) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
“กระทรวงฯ ได้ทำการศึกษากรอบแนวทาง (Framework)
และกรณีศึกษาการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอื่นๆ อาทิ APEC EU ฯลฯ
และนำข้อมูลมาใช้ประกอบการจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียนใช้ในการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์
และบริการอิเล็กทรอนิกส์ร่วมระหว่างประเทศ โดยจะมีการเสนอแนะมาตรการในการส่งเสริม
และจูงใจให้มีการพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาเนื้อหา (Content)
ตลอดจนการส่งเสริมให้ประชาชนและภาคธุรกิจในอาเซียนใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ร่วมด้วย
ซึ่งการจัดทำ ASEAN e-Services Roadmap นี้
จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นอย่างยิ่ง” นางเมธินี กล่าว
สำหรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะสามารถพัฒนาเป็นบริการร่วมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนได้นั้น
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ 1) บริการการเคลื่อนย้ายบุคคล (Movement of people)
ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยการจัดทำ Roadmap
นี้จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคคล
ทั้งในด้านของการเคลื่อนย้ายแรงงาน
ซึ่งปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการจัดทำความตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual
Recognition Agreement: MRA) เพื่ออำนวยความสะดวกในการยอมรับคุณสมบัติของนักวิชาชีพ
โดยมีการกำหนดมาตรฐานวิชาชีพที่สำคัญร่วมกัน
เพื่อการถ่ายเทแรงงานที่มีฝีมือได้โดยเสรี มากขึ้น
ทั้งนี้การพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยอำนวยความสะดวก
โดยลดขั้นตอนและกระบวนการทางเอกสารในการเคลื่อนย้ายแรงงานในอาเซียน
นอกจากนี้ในด้านการเดินทางระหว่างประเทศ
การพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง
และลดปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
เพื่อรองรับการเปิดเสรีการบริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาค
โดยจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ
ทั้งในกระบวนการออกวีซ่าที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน การจัดทำ ASEAN Single Visa
รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดร่วมกันเพื่อประชาสัมพันธ์อาเซียนในฐานะแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน
(ASEAN Single Destination)
2) การเคลื่อนย้ายสินค้า (Movement of goods) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน การจัดทำ
ASEAN e-Services Roadmap
จะมีส่วนสนับสนุนให้การพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกในการนำเข้า – ส่งออก
ด้วยระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว หรือระบบ ASEAN Single Window
ที่ในปัจจุบันได้มีการดำเนินการพัฒนาในประเทศสมาชิกอาเซียนหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
ให้สามารถขยายการพัฒนาไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้ครบทุกประเทศในอนาคต
ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ และการใช้ทรัพยากรต่างๆ
อันเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน
รวมทั้งประเทศไทย เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าของอาเซียน ในปี 2558
**การแต่งกายของประเทศต่างๆในอาเซียน**
ชุดแต่งกายประจำชาติไทย
ชุดแต่งกายประจำชาติกัมพูชา
ชุดแต่งกายประจำชาติอิโดนีเซีย
ชุดแต่งกายประจำชาติมาเลเซีย
ชุดแต่งกายประจำชาติลาว
ชุดแต่งกายประจำชาติพม่า
ชุดแต่งกายประจำชาติฟิลิปินส์
ชุดแต่งกายประจำชาติอินโดนีเซีย
ชุดแต่งกายประจำชาติเวียดนาม
ชุดแต่งกายประจำชาติบรูไน
ชุดแต่งกายประจำชาติของแต่ละประเทศในอาเซียนนั้นสะท้อนให้เราเห็น วัฒนธรรม สังคมที่หลากหลายของแต่ละประเทศส่วนใหณ่นั้นมีอิทธิพลมาจากการนับถือศาสนาซึ่งสะท้อนให้เห็นรูปแบบวัฒนธรรม สังคม ประเพณีของแต่ละประเทศซึ่งอาจมีความคล้ายคลึงกันหรือแตกต่างกันออกไปอยู่บ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น